Past Perfect Tense

Past Perfect Tense เป็นเรื่องที่น่าสนใจในการศึกษาภาษาอังกฤษอย่างมาก เนื่องจากเป็นหนึ่งใน tense ที่ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอดีต ฟังดูยากใช่ไหมแต่ไม่ต้องห่วงในบทความนี้จะเป็นการสรุปเกี่ยวกับ Past Perfect Tense อย่างละเอียด

1. การใช้งานของ Past Perfect Tense

Past Perfect Tense เป็น tense ที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอดีต โดยมักใช้เพื่อเน้นว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หรือการกระทำในอดีต

2. การสร้าง Past Perfect Tense

Past Perfect Tense เราใช้คำกริยาช่วย had สามารถใช้คู่กับประธานได้ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นประธานเอกพจน์หรือประธานพหูพจน์ก็ตาม และตามด้วย past participle (V.3) ของคำกริยาเพื่อสร้างประโยค จะได้โครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + had + V.3 ตัวอย่างประโยคเช่น

• She had finished her homework before she went to bed. (เธอทำการบ้านเสร็จก่อนที่เธอจะไปนอน)
• They had already eaten dinner when I arrived. (พวกเขากินข้าวเสร็จแล้วเมื่อฉันมาถึง)

3. การใช้ Past Perfect Tense เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอดีต

Past Perfect Tense มักถูกใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอดีต โดยมักใช้เมื่อต้องการเน้นว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หรือการกระทำในอดีต เช่น

• By the time we arrived, they had already left. (ในขณะที่เรามาถึง, พวกเขาได้ออกไปแล้ว)
• She realized that she had forgotten her keys after she locked the door. (เธอตระหนักได้ว่าเธอลืมกุญแจหลังจากที่เธอล็อกประตู)

4. การใช้ Past Perfect Tense เพื่อเน้นความเป็นตัวตนของเหตุการณ์

Past Perfect Tense สามารถใช้เพื่อเน้นความเป็นตัวตนของเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอดีต แสดงถึงการเป็นสาเหตุที่ผลเป็นตาม หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการกระทำในอดีต เช่น

• Because he had missed the train, he arrived late for the meeting. (เพราะเขาพลาดการขึ้นรถไฟ, เขาจึงมาสายในการประชุม)
• They had already spent all their money, so they couldn’t buy anything else. (พวกเขาได้ใช้เงินทั้งหมดไปแล้ว, ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถซื้ออะไรเพิ่มเติมได้)

5. การใช้ Past Perfect Tense เพื่อเปรียบเทียบกับ Past Simple Tense

Past Perfect Tense และ Past Simple Tense มักถูกใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ในอดีต แต่มีการใช้และความหมายที่แตกต่างกัน โดย Past Perfect Tense เน้นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หรือการกระทำในอดีต ในขณะที่ Past Simple Tense เน้นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต โดยไม่มีการเน้นเวลาที่เกิดขึ้น เช่น After I had eaten dinner, I went for a walk และ I ate dinner, then I went for a walk.

สรุป Past Perfect Tense

สรุปข้อดีของการรู้จัก Past Perfect Tense: การทราบและเข้าใจการใช้งาน Past Perfect Tense จะช่วยให้เราสามารถเล่าเรื่องหรือเสนอความคิดให้เข้าใจได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นในภาษาอังกฤษ